1. เพื่อให้นักเรียนสามารถทดลองและอธิบายลักษณะของดินในท้องถิ่น เกี่ยวกับสี เนื้อดิน และความเป็น กรด - เบส
1. สำรวจและบันทึกของดินในท้องถิ่น เกี่ยวกับสีของดิน เนื้อดิน และความเป็นกรด – เบส ตารางแสดงสภาพดินในท้องถิ่นและการใช้ประโยชน์ - ลักษณะภูมิประเทศและสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ศึกษา เป็นที่ลุ่ม น้ำท่วมขังในฤดูฝน บริเวณโดยรอบสวนผักเป็นบ้านพักอาศัย
สภาพดินและการนำไปใช้ประโยชน์ ไม่เหมาะสม เหตุผลคือ ดินเสื่อม ปัญหาของสภาพดิน เป็นดินเหนียวเนื้อละเอียด แข็ง แน่นมาก พรวนดินได้ยาก ผลผลิตต่ำ วิธีแก้ไขปัญหา ใช้ปุ๋ยคอกปรับปรุงดิน สรุปได้ว่า จากการสำรวจดินในกิจกรรม ความอุดมสมบูรณ์ของดินอาจเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากกระบวนการตามธรรมชาติโดย การพัดพาของน้ำ และลมอีกส่วนหนึ่งเกิดจากมนุษย์เข้าไปใช้ประโยชน์จนทำให้ดินเสื่อมสภาพ เช่น การปลูกพืชชนิดเดียวติดต่อกันเป็นเวลานาน การใส่สารเคมี ได้แก่ ปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืชลงในดินมากเกินไป เป็นต้น การแก้ปัญหาดังกล่าวของดินจึงต้องใช้หลายวิธีแตกต่างกัน ดังนี้ ดินเปรี้ยว : คือ ดินที่มีสภาพเป็นกรด การปรับปรุงแก้ไขความเป็นกรดของดินใช้หลักการเดียวกับการทำสารที่เป็นกรดให้มีสภาพเป็นกลาง ด้วยการใส่สารที่เป็นด่างลงไปในดินให้มีปริมาณเท่ากับความเป็นกรดทั้งหมดของดิน สารที่ใช้กันทั่ว ๆ ไป ได้แก่ ปูนขาว เมื่อใช้ปูนที่มีอนุภาคละเอียดและคลุกเคล้าให้เข้ากับดิน มากเท่าใด ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นก็จะรวดเร็วทำให้ดินเปลี่ยนสภาพจากกรดได้เร็วขึ้นเท่านั้น ดินเค็ม : เป็นดินที่มีเกลืออยู่ในปริมาณมาก การปรับปรุงมักจะใช้น้ำจืดชะล้างแล้วทำทางระบายน้ำเกลือทิ้ง หรือใส่แคลเซียมซัลเฟตหรือกำมะถันผงเพื่อปรับสภาพดินให้กลายเป็นเกลือโซเดียมซัลเฟตที่น้ำชะล้างออกได้ง่าย ดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ : ส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านเนื้อดิน ดินประเภทนี้มีลักษณะเนื้อหยาบ ดูดซับน้ำและแร่ธาตุได้น้อย สามารถแก้ปัญหาได้โดยใส่อินทรียวัตถุลงในดินอย่างสม่ำเสมอ อินทรียวัตถุจะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์เพิ่มการดูดซับน้ำ ส่วนดินเนื้อละเอียดแน่น รากพืชชอนไชได้ยาก อินทรียวัตถุช่วยให้ดินมีรูพรุนและร่วนซุยมากขึ้น หรือมีการแลกเปลี่ยนแก๊สและระบายน้ำได้ดีขึ้นอีกด้วย ดินฝาด : เป็นดินที่มีสภาพเป็นเบสมาก ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชเช่นกัน แต่เป็นสภาพของดินที่แก้ไขปรับปรุงได้ยาก มีความซับซ้อนมาก |