เลือกคำตอบที่ถูกต้อง |
1. ภาษาไพทอน คือ อะไร |
|
1. ชื่อภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่ง ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาโดยไม่ยึดติดกับแพลตฟอร์ม |
|
2. ภาษาโปรแกรมชั้นสูงชนิดหนึ่ง ถูกออกแบบให้ code สามารถ อ่านได้ง่าย โดยการใช้ “ช่องไฟ” หรือ whitespace |
|
3. เป็นภาษาเขียนโปรแกรมระดับสูงที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในการเขียนโปรแกรมสำหรับวัตถุประสงค์ทั่วไป |
|
4. ถูกทุกข้อ |
|
2. ใครเป็นผู้คิดค้นภาษา Python |
|
1. Dennis Ritchie |
2. James Gosling |
|
3. Niklaus Wirth |
4. Guido van Rossum |
|
3. โปรแกรมแบบ Python ปัจจุบันดูแลโดยบริษัทใด |
|
1. Python software foundation |
2. Intel |
|
3. Nvidia |
4. Microsoft |
|
4. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวผิด |
|
1. ไวยากรณ์ของ Python มีลักษณะคล้ายกับ PHP |
|
|
2. Python สามารถใช้สำหรับการพัฒนาเว็บ |
|
|
3. Python สามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม |
|
|
4. Python สามารถใช้เพื่อสร้างหน้าเว็บแบบไดนามิก |
|
|
|
|
5. เครื่องมือใด ไม่ได้เป็น เครื่องมือในการเขียนโปรแกรมไพธอน |
|
1. SPE |
2. Java scrip |
|
3. Pycharm |
4. PythonIDE |
|
|
|
6. ข้อใดม่ใช่ข้อควรระวังในการเขียนโปรแกรม Python |
|
1. การันโปรแกรม |
|
|
2. เรื่องของข้อความ |
|
3. การเว้นวรรคหรือแบ่งล็อก |
|
|
4. เรื่องของบรรทัด |
|
|
|
|
7. ภาษา python แปลภาษาในลักษณะใด |
|
1. อ่านโค้ดคำสั่งทีละบรรทัดแล้วก็ทำงานให้ ผลลัพธ์ ออกมา |
|
2. ตรวจสอบความผิดพลาดของโค้ดคำสั่งตั้งแต่ต้นจนจบก่อน |
|
3. แปลภาษาทีละบล็อก แล้วสั่งทำงาน |
|
4. ไม่มีข้อใดถูก |
|
|
8. ข้อใดเป็นข้อดีของภาษา python |
|
1. เป็นภาษาสคริปต์ |
|
|
2. สามารถเรียกใช้ภาษาโปรแกรมอื่น ๆ ได้หลายภาษา |
|
|
3. ไวยากรณ์อ่านง่าย |
|
|
4. ถูกทุกข้อ |
|
|
|
|
9. ไลบรารี (Library) ในแต่ละภาษาโปรแกรมมีประโยชน์อย่างไร |
|
1. ทำให้โปรแกรมทำงานได้เร็วขึ้น |
|
2. ทำให้ประหยัดเวลาในการเขียนโปรแกรม |
|
|
3. แหล่งข้อมูลที่โปรแกรมเมอร์ใช้สำหรับสืบค้นข้อมูล |
|
|
4. ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บโปรแกรม |
|
|
|
|
10. การทำงานแบบ Interpreter เป็นอย่างไร |
|
1. ทำงานได้อย่างรวดเร็วกว่าวิธีการอื่นๆ |
|
|
2. ประมวลผลโปรแกรมทีละบรรทัดตามลำดับ |
|
|
3. ต้องมีเครื่องแม่ข่ายสำหรับประมวลผล |
|
|
4. เป็นรูปแบบการเขียนโปรแกรมแบบง่าย ไม่ซับซ้อน |
|
|
11. คำสั่งสำหรับอ้างอิงโมดูล คือ คำสั่งใด |
|
1. Import |
2. Type |
|
3. Print |
4. int |
|
12. คำสั่ง print ในภาษา python คือคำสั่งตามข้อใด |
|
1. คำสั่งรับข้อมูลทางแป้นพิมพ์ |
|
|
2. คำสั่งแสดงข้อมูล |
|
|
3. คำสั่งกำหนดค่า |
|
|
4. คำสั่งตรวจสอบชนิดตัวแปร |
|
|
13. หากต้องการคอมเมนต์บรรทัดเดียว จะต้องใช้เครื่องหมายใด |
|
1. * |
2. \ |
|
3. // |
4. # |
|
14. ไฟล์ Source Code แบบข้อความ ของไพทอนจะมีนามสกุลไฟล์แบบใด |
|
1. .py |
2. .pyc |
|
2. .pyx |
4. .ppy |
|
|
|
15. คีย์ลัดของการรันโปรแกรมคืออะไร |
|
1. F5 |
2. F8 |
|
3. F10 |
4. F12 |
|
|
|
16. คำสั่งแสดงค่าออกทางหน้าของภาษาไพธอนคือคำสั่งใด |
|
1. print() |
2. printf() |
|
2. System.out.print() |
4. echo() |
|
|
|
17. คำสั่งใดต่อไปนี้เป็นคำสั่งตรวจสอบชนิดของข้อมูล |
|
1. import() |
2. type() |
|
3. from() |
4. hex() |
|
|
18. ข้อใดคือคำสั่งเกี่ยวกับการแปลงเลขฐานสิบหก |
|
1. bin(a) |
2. oct(a) |
|
3. hex(a) |
4. doc() |
|
|
|
19. ข้อใดคือชนิดของข้อมูล เป็นตัวอักษร ใน python |
|
1. Number |
2. String |
|
3. List |
4. Tuple |
|
|
|
20. type(3.143) ผลลัพธ์ที่ได้คือ |
|
1. <class 'float'> |
2. <class 'int'> |
|
3. <class 'string'> |
4. <class 'complex'> |
|
21. ตัวแปร คืออะไร |
|
1. คือโครงสร้างของข้อมูล |
|
2. คือชื่อที่ใช้ในการเก็บค่าหรือกำหนดค่า |
|
3. คือเครื่องหมายที่ใช้ในการดำเนินการ |
|
4. ไม่มีข้อถูก |
|
22. ตัวแปรที่เก็บค่าได้หลายค่า แต่ไม่สามารถเปลี่ยนค่าได้ คือตัวแปรใด |
|
1. ตัวแปร List |
2. ตัวแปร Tuple |
|
3. Dictionary |
4. Sequence |
|
23. การกำหนดค่าตัวแปรใดที่ต้องอยู่ภายใต้เครื่องหมาย {….} |
|
1. ตัวแปร List |
2. ตัวแปร Tuple |
|
3. Dictionary |
4. ตัวแปร Array |
|
24. ข้อใดเป็นตัวแปรชนิด List |
|
1. a = {1, 2, 3, 4, 5} |
2. a = (1, 2, 3, 4, 5) |
|
3. a = <1, 2, 3, 4, 5> |
4. a = [1, 2, 3, 4, 5] |
|
|
|
25. ข้อใดเป็นตัวแปรชนิด Tuple |
|
1. a = (1, 2, 3, 4, 5) |
2. a = {1, 2, 3, 4, 5} |
|
3. a = [1, 2, 3, 4, 5] |
4. a = <1, 2, 3, 4, 5> |
|
|
|
26. ข้อใดเป็นตัวแปรชนิด Dictionary |
|
1. a = {'quantity' => 2, 'Price' => 20} |
|
|
2. a = {'quantity' : 2, 'Price' : 20} |
|
3. a = ('quantity' => 2, 'Price' => 20) |
|
|
4. a = ('quantity' : 2, 'Price' : 20) |
|
|
27. คำสั่งใดที่ใช้สำหรับสร้างเงื่อนไขแบบหลายทางเลือก |
|
1. if |
2. while |
|
3. if elif |
4. for |
|
28. ข้อใดต่อไปนี้เป็นคำสั่ง if ในภาษา Python ที่ถูกต้อง |
|
1. if a >= 10 : |
2. if (a => 10) |
|
3. if (a = 22) |
4. if a =< 22 : |
|
29. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมแบบ if |
|
1. การแบ่ง Block จะจบอัตโนมัติเมื่อขึ้น Tap ใหม่ |
|
|
2. สามารถเขียนเงื่อนไขได้เพียงเงื่อนไขเดียว |
|
|
3. จะมี eilf กี่ขั้นก็ได้ |
|
|
4. ภายใต้เงื่อนไขจะมี Statements ก็ได้ |
|
|
30. For loop คืออะไร |
|
1. การทำงานซ้ำจนกว่าจะตรงตามเงื่อนไข |
|
|
2. ควบคุมโปรแกรมให้ทำงานบางอย่างซ้ำๆ |
|
|
3. การทำงานไปเรื่อยๆของโปรแกรม |
|
|
4. การกำหนดเงื่อนไขให้โปรแกรม |
|
|
31. คำสั่งในการวนลูป For ของภาษาไพทอนในข้อใดถูกต้อง |
|
1. for(a = 0; a < 3 ; a++) |
2. for a loop 3 : |
|
3. for a in range(1, 3) : |
4. for a in range(3) |
|
32. While loop คืออะไร |
|
1. เงื่อนไขที่ต้องการตรวจสอบก่อนการวน loop |
|
|
2. การทำงานไปเรื่อยๆ จนกว่าเงื่อนไขจะเป็นเท็จ |
|
|
3. การทำงานไปเรื่อยๆ จนกว่าเงื่อนไขจะเป็นจริง |
|
|
4. ไม่มีข้อใดถูก |
|
|
33. ข้อใดคือความหมายของฟังก์ชัน |
|
1. ส่วนของโค้ดหรือโปรแกรมที่ทำงานเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง |
|
2. โครงสร้างของข้อมูล |
|
|
3. ชื่อที่ใช้ในการเก็บค่าหรือกำหนดค่า |
|
|
4. การทำงานวนซ้ำจนกว่าจะตรงตามเงื่อนไข |
|
|
34. ข้อใดเป็นการประกาศฟังก์ชันที่ถูกต้อง |
|
1. def Submit() : |
2. function Submit() |
|
3. def Submit |
4. function Submit() : |
|
35. หากต้องการฝึกวาดรูปด้วยโปรแกรมเต่าไพทอน จะต้องเรียกใช้โมดูลใด |
|
1. โมดูล turtle |
|
|
2. โมดูล sqlite3 |
|
|
3. โมดูล tkinter |
|
|
4. โมดูล shape |
|
|
36. การวาดรูปด้วยเต่าไพทอน จะต้องเริ่มต้นเขียนคำสั่งใดเป็นคำสั่งแรก |
|
1. import turtle |
2. from * import turtle |
|
3. from turtle import * |
4. From tkinter |
|
37. ข้อใดไม่ใช่คำสั่งในการสั่งให้เต่าเคลื่อนที่ |
|
1. forward() |
2. back() |
|
3. backward() |
4. hideturtle() |
|
38. ข้อใดไม่ใช่โครงสร้างฐานข้อมูล |
|
1. ตาราง |
2. เรคอร์ด |
|
3. ฟิลด์ |
4. แฟ้ม |
|
39. คำสั่งใดเป็นคำสั่งที่ใช้ในการอ่านค่าข้อมูลต่างๆ จากตาราง |
|
1. select
|
2. from
|
|
3. import
|
4. insert |
|
40. การสร้างหน้าต่าง GUI หลัก ใช้คำสั่งใด |
|
1. from tkinter import * |
2. root = Tk() |
|
3. button.grid() |
4. root.mainloop() |
|
|