1. ข้อใดแบ่งลำดับชั้นของการจัดการข้อมูลตามขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ได้ถูกต้อง |
|
1. ไฟล์หรือแฟ้มตารางข้อมูล (File) , เรคคอร์ด (Record) , ฟีลด์ (Field) , ไบต์ (Byte) , บิต (Bit ) |
|
2. เรคคอร์ด (Record) , บิต (Bit ) , ไบต์ (Byte) , ฟีลด์ (Field) , ไฟล์หรือแฟ้มตารางข้อมูล (File) |
|
3. บิต (Bit ) , ไบต์ (Byte) , ฟีลด์ (Field) , เรคคอร์ด (Record) , ไฟล์หรือแฟ้มตารางข้อมูล (File) |
|
4. บิต (Bit ) , ฟีลด์ (Field) , ไบต์ (Byte) , เรคคอร์ด (Record) , ไฟล์หรือแฟ้มตารางข้อมูล (File) |
|
2. ข้อใดคือฟังก์ชัน สำหรับทำการเปิดแฟ้มข้อมูล |
|
1. ฟังก์ชัน fclose ( ) |
|
2. ฟังก์ชัน fopen( ) |
|
3. ฟังก์ชัน fgetc( ) |
|
4. ฟังก์ชัน open( ) |
|
3. ฟังก์ชัน fopen( ) ถูกจัดเก็บอยู่ในแฟ้มข้อมูลใด |
|
1. ไลบรารี conio.h |
|
2. ไลบรารี stdio.h |
|
3. ไลบรารี math.h |
|
4. ไลบรารี string.h |
|
|
|
4. ข้อใดคือโหมดการเปิดไฟล์สำหรับอ่านและเขียนข้อมูลใหม่ทับข้อมูลเดิม หรือสร้างไฟล์ใหม่ |
|
1. โหมด r+ |
|
2. โหมด a+ |
|
3. โหมด w+ |
|
4. โหมด r |
|
|
|
5. การเปิดไฟล์ด้วยโหมดใด ถ้าพบว่ายังไม่มีไฟล์ จะเกิด error ทันที |
|
1. โหมด r |
|
2. โหมด w |
|
3. โหมด a |
|
4. โหมด e |
|
|
|
6. การเปิดไฟล์ด้วยโหมด “r” มีลักษณะการทำงานอย่างไร |
|
1. เปิดไฟล์สำหรับอ่านข้อมูลอย่างเดียว |
|
2. เปิดไฟล์สำหรับเขียนข้อมูลอย่างเดียว |
|
3. เปิดไฟล์สำหรับสร้างไฟล์ใหม่ |
|
4. เปิดไฟล์สำหรับเขียนข้อมูลต่อท้ายข้อมูลเดิมในไฟล์ |
|
|
|
7. การเปิดไฟล์ด้วยโหมด “a” มีลักษณะการทำงานอย่างไร |
|
1. เปิดไฟล์สำหรับอ่านข้อมูลอย่างเดียว |
|
2. เปิดไฟล์สำหรับเขียนข้อมูลอย่างเดียว |
|
3. เปิดไฟล์สำหรับสร้างไฟล์ใหม่ |
|
4. เปิดไฟล์สำหรับเขียนข้อมูลต่อท้ายข้อมูลเดิมในไฟล์ |
|
|
|
8. ลำดับชั้นข้อมูลใดประกอบด้วยกลุ่มของตัวอักษร ตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไปมาประกอบกันเป็นหน่วยข้อมูลที่ใหญ่ขึ้น เช่น เขตข้อมูลเกี่ยวกับพนักงาน ประกอบด้วย รหัสพนักงาน ชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง |
|
1. บิต (Bit) |
|
|
2. เรคอร์ด (Record) |
|
|
3. ฟิลด์ (Field) |
|
|
4. ไบต์ (Byte) |
|
|
|
|
9. ฟังก์ชัน fclose () มีลักษณะการทำงานแบบใด |
|
1. เป็นฟังก์ชันที่ใช้สำหรับการปิดแฟ้มข้อมูล
|
|
|
2. เป็นฟังก์ชันที่ใช้สำหรับการเปิดแฟ้มข้อมูล |
|
|
3. เป็นฟังก์ชันที่ใช้สำหรับบันทึกไฟล์ลงแฟ้มข้อมูล |
|
4. เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการลบข้อมูลในแฟ้มข้อมูล |
|
|
|
10. ข้อใด ไม่ใช่ ฟังก์ชันที่ใช้ในการอ่านข้อมูลจากไฟล์ |
|
1. ฟังก์ชัน fget() |
|
2. ฟังก์ชัน fgets() |
|
3. ฟังก์ชัน fprintf() |
|
4. ฟังก์ชัน fscanf() |
|
|
11. ข้อใดคือ ฟังก์ชันที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลลงไฟล์ |
|
1. ฟังก์ชัน fputs() |
|
2. ฟังก์ชัน fopen() |
|
3. ฟังก์ชัน fgetc() |
|
4. ฟังก์ชัน feof () |
|
|
12. ฟังก์ชัน fputc() มีลักษณะการทำงานแบบใด |
|
1. เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการอ่านข้อมูลจากไฟล์ |
|
2. ใช้ตรวจสอบการสิ้นสุดไฟล์ |
|
3. ใช้ในการเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการภายในไฟล์ |
|
4. เป็นคำสั่งบันทึกข้อมูลทีละตัวอักษรลงในไฟล์ |
|
|
13. ข้อใดคือ ฟังก์ชันที่ใช้ตรวจสอบการสิ้นสุดแฟ้มข้อมูล |
|
1. ฟังก์ชัน feof() |
|
2. ฟังก์ชัน fseek() |
|
3. ฟังก์ชัน ftell() |
|
4. ฟังก์ชัน fclose() |
|
|
14. ข้อใดคือ ฟังก์ชันที่ใช้ในการลบไฟล์ในภาษาซี |
|
1. ฟังก์ชัน delete() |
|
2. ฟังก์ชัน exit() |
|
3. ฟังก์ชัน remove() |
|
4. ฟังก์ชัน fclose () |
|
|
15. ลำดับชั้นข้อมูลใด จะต้องเอามาแปลงให้อยู่ในรูปของเลขฐานสองก่อน คอมพิวเตอร์จึงจะเข้าใจและทำงานตามที่ต้องการได้ |
|
1. บิต (Bit) |
|
2. ไบต์ (Byte) |
|
3. ฟิลด์ (Field) |
|
4.เรคอร์ด (Record) |
|
|
16. ข้อใดต่อไปนี้เป็นนามสกุลของชนิดของแฟ้มข้อมูล เท็กซ์ไฟล์ (Text Files) |
|
1. .doc |
|
2. .exe |
|
3. .gif |
|
4. .txt |
|
|
17. ข้อใดต่อไปนี้เป็นนามสกุลของชนิดของแฟ้มข้อมูล ไบนารีไฟล์ (Binary Files) |
|
1. .php |
|
2. .exe |
|
3. .c |
|
4. .txt |
|
|
18. ข้อใดคือ รูปแบบของคำสั่งการปิดแฟ้มข้อมูล |
|
1. remove(“ชื่อไฟล์”); |
|
2. fpt = fopen("c:/myfile.txt" , "w") |
|
3. fopen(fpt); |
|
4. fclose(fpt); |
|
|
19. ข้อใดคือเครื่องหมายลงท้ายคำสั่งต่างๆ ในภาษา C |
|
1. เครื่องหมาย ; (semi-colon) |
|
2. เครื่องหมาย : (colon) |
|
3. เครื่องหมาย # (directive) |
|
4. เครื่องหมาย , (comma) |
|
|
20. จากคำสั่งที่กำหนด ตำแหน่งใดทำหน้าที่เป็นตัวแปรไฟล์พอยน์เตอร์
|
|
1. fopen(); |
|
2. “w” |
|
3. *fpt |
|
4. “c:/myfile.txt” |
|
|