<< Go Back

         ลำโพง Source TDA2822M เป็นลำโพงที่สามารถใช้งานร่วมกับชิปขยายเสียง TDA2822M ได้ ชิปขยายเสียง TDA2822M เป็นชิปขยายเสียงแบบคลาสสิกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงและราคาไม่แพง ลำโพง Source TDA2822M มักใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น เครื่องขยายเสียง เครื่องรับวิทยุ เครื่องเล่นเพลง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพา
         ลำโพง Source TDA2822M มักมีกำลังขับอยู่ที่ประมาณ 2x10 วัตต์ สามารถขับลำโพงขนาด 4-8 โอห์มได้ ลำโพงประเภทนี้มักมีขนาดเล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก

ตัวอย่าง
              1. ลำโพงจิ๋วสำหรับเครื่องขยายเสียง
              2. ลำโพงสำหรับเครื่องรับวิทยุ
              3. ลำโพงสำหรับเครื่องเล่นเพลง
              4. ลำโพงสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพา

ลำโพง Source TDA2822M

การต่อวงจร

              เส้นที่ 1 สีดำ คือ GND (Arduino)
              เส้นที่ 2 สีแดง คือสายข้อมูล ต่อที่ Pin S45

Tone และเสียงโน้ต
Tone
              ในทางดนตรี เสียงโน๊ต คือ เสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุต่าง ๆ วัตถุแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติในการสั่นสะเทือนที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เกิดเสียงโน๊ตที่มีระดับเสียงและความถี่ที่แตกต่างกันออกไป

สีสันของเสียงสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
              1. สีสันของเสียงจากเครื่องดนตรี เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัสดุต่าง ๆ ที่ใช้ทำเครื่องดนตรี เช่น โลหะ ไม้ หนัง พลาสติก เป็นต้น วัสดุแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติในการสั่นสะเทือนที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เกิดสีสันของเสียงที่แตกต่างกันออกไป เช่น เสียงเปียโนมีสีสันที่นุ่มนวล เสียงไวโอลินมีสีสันที่คมชัด เสียงทรัมเป็ตมีสีสันที่สดใส เป็นต้น
              2. สีสันของเสียงจากเสียงร้องของมนุษย์ เกิดจากการสั่นสะเทือนของเส้นเสียงในกล่องเสียง เสียงร้องของมนุษย์จะแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น เพศ วัย เทคนิคการร้อง เป็นต้น เสียงร้องของผู้ชายจะมีความทุ้มกว่าเสียงร้องของผู้หญิง เสียงร้องของเด็กจะมีความใสกว่าเสียงร้องของผู้ใหญ่ เสียงร้องของนักร้องโอเปราจะมีความหนักแน่นกว่าเสียงร้องของนักร้องเพลงป๊อป เป็นต้น
สีสันของเสียงมีความสำคัญต่อดนตรีเป็นอย่างมาก เพราะส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้ฟัง คีตกวีจึงมักใช้สีสันของเสียงเพื่อสื่อความหมายต่าง ๆ ให้กับบทเพลง เช่น การใช้เสียงที่นุ่มนวลเพื่อสื่อถึงอารมณ์ที่อ่อนโยน การใช้เสียงที่คมชัดเพื่อสื่อถึงอารมณ์ที่ตื่นเต้น การใช้เสียงที่สดใสเพื่อสื่อถึงอารมณ์ที่ร่าเริง เป็นต้น
นอกจากนี้ สีสันของเสียงยังสามารถใช้เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับบทเพลงได้อีกด้วย เช่น การใช้เสียงที่มีสีสันที่โดดเด่นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ฟัง การใช้เสียงที่มีสีสันที่แตกต่างกันเพื่อสร้างความหลากหลายให้กับบทเพลง เป็นต้น

เสียงโน้ต
              ในทางดนตรี เสียงโน๊ต คือ เสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุต่างๆ วัตถุแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติในการสั่นสะเทือนที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เกิดเสียงโน๊ตที่มีระดับเสียงและความถี่ที่แตกต่างกันออกไป
               ในดนตรี เสียงโน๊ต คือ เสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุต่างๆ วัตถุแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติในการสั่นสะเทือนที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เกิดเสียงโน้ตที่มีระดับเสียงและความถี่ที่แตกต่างกันออกไป
               ระดับเสียงของโน๊ตสามารถวัดได้ด้วยหน่วยที่เรียกว่า เฮrtz (Hz) โดยเสียงโน๊ตที่มีระดับเสียงสูงจะมีค่าเฮrtz สูง เสียงโน๊ตที่มีระดับเสียงต่ำจะมีค่าเฮrtz ต่ำ
               ความถี่ของโน๊ต คือ จำนวนครั้งที่วัตถุสั่นสะเทือนใน 1 วินาที โดยเสียงโน๊ตที่มีความถี่สูงจะมีระดับเสียงสูง เสียงโน้ตที่มีความถี่ต่ำจะมีระดับเสียงต่ำ
เสียงโน๊ตสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
               1. เสียงโน๊ตบริสุทธิ์ คือ เสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุเพียงอย่างเดียว เสียงโน๊ตบริสุทธิ์จะมีระดับเสียงและระดับเสียงที่ชัดเจน
               2. เสียงโน๊ตไม่บริสุทธิ์ คือ เสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุมากกว่าหนึ่งชิ้น เสียงโน๊ตไม่บริสุทธิ์จะมีระดับเสียงและระดับเสียงที่ไม่ชัดเจน

             เสียงโน๊ตในดนตรีสากล จะใช้ ระบบโน้ตสากล (International Phonetic Alphabet) ซึ่งเป็นระบบการเขียนโน้ตที่ใช้อักษรภาษาอังกฤษเป็นตัวกำหนดระดับเสียงของโน๊ต โดยอักษรแต่ละตัวจะแทนระดับเสียงที่แตกต่างกัน ดังนี้

             | อักษร | ระดับเสียง |
             |---|---|---|
             | C | โด |
             | D | เร |
             | E | มี |
             | F | ฟา |
             | G | ซอล |
             | A | ลา |
             | B | ที |

             นอกจากนี้ ยังมีการใช้ เครื่องหมายกำกับเสียง (Accidentals) เพื่อเพิ่มหรือลดระดับเสียงของโน๊ต โดยเครื่องหมายกำกับเสียงจะมีดังนี้
             เครื่องหมาย        ระดับเสียง
             ♯ (Sharp)          เพิ่มขึ้น 1 ครึ่งเสียง
             ♭ (Flat) ลดลง 1 ครึ่งเสียง
             เสียงโน๊ตมีความสำคัญต่อดนตรีเป็นอย่างมาก เพราะเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของบทเพลง คีตกวีจึงมักใช้เสียงโน๊ตเพื่อสร้างสรรค์บทเพลงที่มีความสวยงามและไพเราะ

             playNote(uint16_t note, int time) ใช้เพื่อสั่งเล่นเสียโน๊ตตามเวลาที่กำหนด

โน้ตที่มีได้แก่

มีพารามิเตอร์ 2 ตัว
               - note โน๊ตที่ต้องการเล่นเสียง
              - time เวลาที่ต้องการเล่นเสียง
pauseNote()

     ใช้เพื่อสั่งหยุดเล่นเสียโน้ต

การเขียนโค้ดควบคุม

หลักการทำงาน             เสียงโน้ตจะดังออกทางลำโพง ซึ่งสามารถปรับความดังที่ปุ่มปรับ


<< Go Back