1. เพื่อให้นักเรียนสามารถบอกได้ว่าพลาสติกไม่ละลายในตัวทำละลายทั่ว ๆ ไป สลายไม่หมดเมื่อเผาไหม้จึงยากแก่การกำจัด
2. อธิบายผลกระทบที่เกิดจากการใช้ถุงพลาสติกและโฟมจำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถกำจัดได้เมื่อปะปนในสิ่งแวดล้อม
1. ขวดพร้อมฝาปิดขนาด 100 cm3 |
3 อัน |
2. กระบอกตวงขนาด 100 cm3 |
3 อัน/ห้อง |
3. ไม้ขีดไฟและเทียนไข |
1 ชุด |
4. สารละลายกรดไฮโดรคลอริก 2 mol/ dm3 |
10 cm3 |
5. สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ 2 mol/dm3 |
10 cm3 |
6. เฮกเซน |
10 cm3 |
7. ถุงพลาสติกชนิด PE |
1 ถุง |
1. ตัดถุงพลาสติกเป็นชิ้นเล็ก ๆ (ประมาณ 4 cm2) จำนวน 3 ชิ้น และ ขนาดใหญ่ 1 ชิ้น
2. ใส่พลาสติกที่ตัดไว้ลงในขวดรูปชมพู่หรือขวดแก้วขวดละหนึ่งชิ้น แล้วใส่สารละลายกรดไฮโดรคลอริก สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ และเฮกเซน ลงในแต่ละขวดตามลำดับ ปิดฝาให้แน่นแล้วแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที สังเกตและบันทึกผล ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตั้งทิ้งไว้ 1 คืน แล้วสังเกตและบันทึกผล
3. นำพลาสติกชิ้นใหญ่ที่เหลือเผาในที่โล่งแจ้งหรือในตู้ควัน สังเกตและบันทึกผล
4. สรุปและนำเสนอผลการทดลอง
จากผลการทดลองสรุปผลของการทดลองได้ดังนี้
เมื่อแช่ในสารละลาย |
ผลการเปลี่ยนแปลงของพลาสติก |
กรดไฮโดรคลอริก 2 mol/ dm3
โซเดียมไฮดรอกไซด์ 2 mol/ dm3
เฮกเซน |
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง |
พลาสติกเผาไฟจะลุกไหม้ติดไฟเกิดเขม่าควัน และส่วนหนึ่งจะหลอมเหลวหยดลงบนพื้น
จากผลการทดลองดังกล่าวจึงสรุปได้ว่าโดยทั่วไปถุงพลาสติกชนิดเทอร์มอพลาสติก ไม่ละลายในน้ำ ในสารละลายกรด ในสารละลายเบส และในตัวทำละลายอินทรีย์ บางชนิด เมื่อเผาจะลุกติดไฟ ให้เขม่าควัน และพลาสติกบางชนิดจะมีแก๊สพิษเกิดขึ้นด้วย
|