1. เพื่อให้นักเรียนสามารถเตรียมสไลด์เพื่อศึกษากระบวนการ ออสโมซิส ในเซลล์พืช 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงสภาพของเซลล์เมื่ออยู่ในน้ำกับเมื่ออยู่ในสารละลายที่มีความเข้มข้นต่างกัน 3. เพื่อให้นักเรียนสามารถนำหลักการ ออสโมซิสมาอธิบายการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป และนำหลักการดังกล่าวไปใช้ประโยชน์
1. ใช้เข็มหรือปลายใบมีดโกนลอกเนื้อเยื่อบางๆ ด้านในของกลีบหอมแดง หรือเยื่อบางๆ จากผิวใบด้านที่มีสีม่วงของว่านกาบหอย หรือใบของหัวใจสีม่วง
1. ใช้สไลด์ที่ศึกษาในตอนที่ 1 หยดสารละลายกลูโคส 10 % ลงในที่ขอบด้านหนึ่งของกระจกปิดสไลด์ ขณะเดียวกันใช้กระดาษเยื่อค่อยๆ แตะตรงขอบอีกด้านหนึ่งของกระจกปิดสไลด์เพื่อซับเอาน้ำออก นำไปตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ โดยใช้เลนส์ ใกล้วัตถุกำลังขยายต่ำและกำลังขยายสูงตามลำดับสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงของเซลล์ แล้วบันทึกภาพ ตอนที่ 1 ลักษณะของเซลล์เมื่ออยู่ในน้ำกลั่น เซลล์ที่อยู่ในน้ำกลั่นจะอยู่สภาพเซลล์เต่ง เยื่อหุ้มเซลล์จะแนบชิดกับผนังเซลล์ ออร์แกเนลล์ต่างๆ ในเซลล์จะอยู่ตามขอบเซลล์ เนื่องจากแวคคิวโอลมีขนาดใหญ่ขึ้น ตอนที่ 2 ลักษณะเซลล์ที่อยู่ในสารละลายกลูโคส กับเซลล์ที่อยู่ในน้ำกลั่น ลักษณะของเซลล์ที่อยู่ในสารละลายกลูโคสต่างจากเซลล์ที่อยู่ในน้ำกลั่น คือ ออร์แกเนลล์ในเซลล์ที่อยู่ในสารละลายกลูโคส จะมารวมกันห่างจากขอบเซลล์ นั่นคือเยื่อหุ้มเซลล์จะอยู่ห่างจากผนังเซลล์ แสดงว่าเซลล์เริ่มเหี่ยวลง ดังนั้นสามารถพิจารณาได้ว่าเมื่อเซลล์อยู่ในน้ำกลั่น ความเข้มข้นของน้ำ นอกเซลล์มากกว่าภายในเซลล์ โมเลกุลของน้ำจากภายนอกเซลล์จึงออสโมซิสเข้าสู่เซลล์ ทำให้เซลล์เต่ง ในทางตรงข้ามเมื่อเซลล์อยู่ในสารละลายกลูโคส ความเข้มข้นของน้ำภายในเซลล์มากกว่าภายนอกเซลล์ โมเลกุลของน้ำในเซลล์จึงออสโมซิสออกสู่ภายนอก เซลล์จึงเหี่ยว สรุปได้ว่า ข้อมูลที่ได้จากกิจกรรมแสดงว่าโมเลกุลหรือไอออนของสาร ซึ่งในที่นี้หมายถึงโมเลกุลของน้ำ สามารถผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าและออกจากเซลล์ได้เมื่อเซลล์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเข้มข้นของน้ำต่างจากภายในของเซลล์ |