<< Go Back

นอกจากการนำเสนอข้อมูลที่เป็นแบบข้อความ รูปภาพ กราฟิก Chat, SmartArt และเนื้อหาอื่น ๆ ลงไปในสไลด์แล้ว ยังมีการนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบของ Media หรือสื่อประเภทวิดีโอคลิป และเสียง โดยจะเป็นได้ทั้งเสียงเพลง และเสียงบรรยายประกอบการนำเสนอ ซึ่งจะแทรกจากคำสั่ง Media เลือก Video หรือ Audio ได้ตามต้องการ จะเลือกได้จากสื่อที่มีในเครื่อง หรือแทรกจากสื่อออนไลน์ก็ได้

การแทรกวิดีโอเป็นเนื้อหาอีกแบบหนึ่งที่สามารถนำมาใส่เพื่อเพิ่มการนำเสนอของภาพเคลื่อนไหวประเภทคลิปวิดีโอ ซึ่งจะนำมาวางลงในสไลด์ได้ 2 แบบ ไฟล์คลิปวิดีโอที่เก็บไว้ภายในเครื่องและไฟล์วิดีโอออนไลน์

การนำไฟล์วิดีโอที่เก็บไว้ภายในเครื่องโดยไปที่ เมนูแทรก => วิดีโอ => วิดีโอบนพีซีของฉัน

จากนั้นจะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของการแทรกภาพยนตร์ขึ้นมา เพื่อให้เลือกไฟล์วีดีโอ ดังนี้

ประเภทของไฟล์วีดีโอที่สามารถนำมาใช้งานบนสไลด์ได้ จะเป็นไฟล์วีดีโอเพื่อทุกประเภท เช่น .avi, .mov, .m4v, .wmx, .wm, .qt และอื่นๆ ซึ่งเป็นไฟล์วีดีโอที่มาจากการถ่ายจากมือถือ ,กล้องถ่ายภาพ หรือกล้องถ่ายวีดีโอทั่วไป

เมื่อคลิกเลือกรูปแบบการเล่นของวีดีโอแล้ว โปรแกรมจะทำการแทรกไฟล์วีดีโอลงในสไลด์ให้ดังนี้

 

          การแทรกคลิปวิดีโอจากแหล่งที่เก็บบนโลกอินเทอร์เน็ต เช่น จาก YouTube, SlideShare, Vimeo, Stream โดย การอ้างอิงที่อยู่ URL มาวางเพื่อดึงเอาวิดีโอมาแสดงในสไลด์ เหมาะกับการสร้างงานพรีเซนต์ที่แซร์เอาไว้บน อินเทอร์เน็ต เพราะจะทำให้ขนาดของไฟล์พรีซนต์มีขนาดเล็ก ดีกว่าฝังวิดีโอลงในไฟล์ เพราะจะทำให้ไฟล์มีขนาด ใหญ่ และโหลดได้ช้ากว่า หรือต้องการอ้างอิงถึงวิดีโอคลิปที่คนอื่นโพสต์ไว้ เพื่อนำมาแสดงร่วมกับการนำเสนอใน เนื้อหาภายในสไลด์ของเรา แต่ตอนที่นำเสนอวิดีโอต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอยู่ด้วยจึงจะดึงวิดีโอมาแสดงได้

หากต้องการแทรกไฟล์จากเว็บไซต์ YouTube ให้เลือกการแทรกวีดีโอแบบออนไลน์ (Online Video) ได้แต่ต้องเชื่อมอินเทอร์เน็ตขณะแทรก และในขณะที่เล่นในงานนำเสนอด้วยโดยจะเลือกแทรกได้ 2 แบบดังนี้

 

           การแทรกวิดีโอจาก YouTube เปิดบราวเซอร์ดูวิดีโอในช่องของ YouTube แล้ว Coppy URL ที่อยู่ของวิดีโอมาวางในช่อง Address

 

พื้นที่ไฟล์วิดีโอบนสไลด์สามารถจัดรูปแบบได้ เช่น เลือกใส่ Video Style โดยเลือกรูปแบบสไลด์ได้เหมือนการใส่สไตล์รูปภาพ และจัดรูปแบบอื่น ๆ ได้ดังนี้

- กรอบภาพโปสเตอร์ ใส่ภาพโปสเตอร์หน้าปกวิดะโอโดยเลือกภาพจาก รูปจากไฟล์...

- สไตล์วิดีโอ เลือกสไตล์วิดีโอต่าง ๆ

- รูปร่างวิดีโอ เลือกรูปทรงทำเฟรมวิดีโอ

- กรอบวิดีโอ เลือกรูปแบบเส้นกรอบ

- เอฟเฟกต์วิดีโอ เลือกเอฟเฟกต์

 

คลิปวิดีโอที่นำเข้ามาอาจจะมีเนื้อหาที่ไม่อยากให้แสดง หรือต้องการตัดเนื้อหาวิดีโอที่ยาวๆ ช่วงท้ายออก โดยใช้คำสั่งตัดแต่งวิดีโอ ให้ตัดเนื้อหาวิดีดอได้ดังนี้

 

ผู้เรียนสามารถเพิ่มเสียงจากแฟ้มในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ Microsoft Clip Organizer รวมทั้งบันทึกเสียงของผู้เรียนเองเพิ่มลงในงานนำเสนอหรือ ใช้เพลงจากซีดีก็ได้ ซึ่งรูปแบบของการแทรกเสียงได้แก่

แทรกไฟล์เสียงส่วนตัวลงสไลด์

การแทรกเสียงแบบนี้ เป็นแบบที่ผู้ใช้งานทั่วไปจะนิยมใช้กันมาก โดยเป็นการแทรกไฟล์เสียงที่มีอยู่ แล้วในเครื่องคอมพิวเตอร์ เข้ามาในสไลด์ของโปรแกรม PowerPoint ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

 

จากนั้นจะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของการแทรกเสียงขึ้นมา เพื่อให้เลือกไฟล์เสียง ดังนี้

 

เมื่อคลิกที่ปุ่ม แทรก เพื่อแทรกเสียงแล้ว โปรแกรมจะแสดงไอคอน     และแท็บบาร์ทางด้านล้าง

คลิกปุ่ม   เพื่อทดสอบฟังเพลงหรือคลิกปุ่ม เพื่อหยุดไฟล์เสียงชั่วคราว แท็บบาร์แสดงช่วงเวลาของไฟล์ สามารถใช้เมาส์เลื่อนไปยังตำแหน่งที่ ต้องการฟัง

เพลง แล้วคลิกปุ่ม กระโดดย้อนกลับไป 0.25 วินาที หรือ   กระโดดไปที่ 0.25 วินาที แสดงช่วงเวลาในขณะเล่นเพลง ควบคุมระดับความดังของไฟล์เสียงเมื่อคลิกที่ไอคอนแสดง เพื่อให้เลื่อนปรับระดับเสียง

แทรกไฟล์ อัดเสียงบรรยายลงในสไลด์

เนื้อหาของการสร้างงานพรีเซนเตชันอีกแบบหนึ่งที่มักใช้กันคือ การใส่เสียงบรรยายลงไปในสไลด์เพื่ออธิบายเนื้อเรื่อง ใช้เพื่อการนำเสนอแบบอัตโนมัติแบบไม่มีผู้ควบคุม หรือเวลาที่ต้องการฉายสไลด์โชว์ในงานต่าง ๆ โดยสามารถอัดเสียงลงไปในสไลด์แต่ละแผ่นเพื่อเล่าเรื่องแทนได้

 

การจัดการเสียงในสไลด์

เมื่อแทรกไฟล์เสียงเข้ามาจะแสดงแท็บเครื่องมือ AUDIO TOOLS (เครื่องมือเสียง) ขึ้นมาให้ปรับแต่งการแสดงของเสียง โดยหลัก ๆ จะอยู่ในแท็บ การเล่น ดังนี้

ซึ่งส่วนของคำสั่งที่ใช้ในการจัดการเสียงจะอยู่ในกลุ่มของ ตัวเลือกของเสียง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ระดับเสียงการนำเสนอสไลด์ ใช้สำหรับกำหนดระดับความดังของเสียงที่แทรกลงในสไลด์ โดยให้คลิกที่คำสั่ง จากนั้นจะปรากฏรายการของระดับเสียง ได้แก่ เบา , ปานกลาง , ดัง และปิดเสียง ดังนี้

ซ่อนระหว่างนำเสนอ คือ ให้ทำการซ่อนไอคอนของเสียง ซึ่งก็คือรูปลำโพง ในขณะที่ทำการแสดงสไลด์นั่นเอง โดยให้คลิกให้มีเครื่องหมายถูกด้านหน้าคำสั่ง ดังนี้

วนรอบจนกว่าจะสั่งหยุด คือ เมื่อทำการแสดงสไลด์แล้ว เสียงจะเล่นซ้ำไปเรื่อยจนกว่าจะ เปลี่ยนไปสไลด์ถัดไป โดยที่ให้คลิกให้มีเครื่องหมายถูกด้านหน้าคำสั่ง ดังนี้

จะมีปุ่มเครื่องมือเพื่อให้กำหนดค่าเกี่ยวกับเสียงได้แก่

คลิกเพื่อฟังเสียง

คลิกเพื่อหยุดเล่นชั่วคราว

คลิกเพื่อแทรกบุ๊คมาร์ก หรือระบุตำแหน่งเอาไว้เพื่อใช้อ้างอิงในการตัดต่อเสียง,

ลบตำแหน่งบุ๊คมาร์กที่สร้างขึ้น

คลิกเพื่อตัดต่อไฟล์เสียงให้สั้นลง

Fade Duration กำหนดค่าการลด-เพิ่มเสียง โดยคลิก   เสียงเริ่มจากค่อยไปดัง คลิกปุ่ม เพื่อกำหนดเวลาการ Fade In, เสียงเริ่มจากดังไปค่อย คลิกปุ่ม เพื่อกำหนดเวลาการ Fade Out

กำหนดการเริ่มเล่นไฟล์เสียง โดยปกติจะแสดงตัวเลือกเป็น Automatically เล่นทันทีเฉพาะสไลด์ที่แทรกเสียง, On Click คลิกเมาส์เสียงจึงจะทำงาน (เฉพาะสไลด์ที่แทรกเสียง), Play across slides เล่นเพลงแม้เปลี่ยนสไลด์

การใช้งาน Bookmark เราสามารถแทรก Bookmark ลงไปยังตำแหน่งเวลาที่ต้องการบนไฟล์คลิปเสียงหรือคลิปวิดีโอ เพื่อเป็นตัวกำหนดตำแหน่งเอาไว้ โดยตำแหน่งดังกล่าวอาจใช้งานตำแหน่งในการตัดทิ้ง เป็นต้น

 

ตัดไฟล์เสียงให้สั้นลง

คุณสามารถตัดไฟล์เสียงได้ เพื่อทำให้เวลาของเสียงสั้นลง โดยจะตัดได้จากต้นเสียงและท้ายเสียงดังนี้

 

สำหรับผู้ที่ใช้งานนำเสนอที่มีอาชีพการสอน การสาธิตการทำงานของ Software หรือโปรแกรมต่าง ๆ ที่ทำงานบนคอมพิวเตอร์ สามารถใช้เครื่องมือ การบันทึกหน้าจอนี้มาจับภาพการทำงานและบันทึกไฟล์วิดีโอนำมาวางในสไลด์ได้เลย

 

การจับภาพหน้าจอ
            การใช้งานการบันทึกการนำเสนอ หรือการสอนบน Powerpoint ซึ่งจะมีการบันทึกเสียงผู้สอน และการใช้เมนูเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการนำเสนอ ซึ่งจำลองการสอนเหมือนอยู่ห้องเรียน ถ้าหากต้องการให้มีหน้าจอการนำเสนอแบบมีหน้าจอวิดีโอขณะนำเสนอด้วย ซึ่งจะมีหน้าจอที่มีความรู้สึกเหมือนประชุมออนไลน์ การทำงานนี้จะมีอยู่ใน Microsoft Powerpoint 2019 เท่านั้น ดังนั้นหากต้องการให้เห็นเป็นการบันทึกหน้าผู้นำเสนอด้วย จำเป็นต้องใช้ Powerpoint 2019 เท่านั้นวิธีการบันทึกการใช้งาน มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
            1. ไปที่เมนู การบันทึ
            2. เลือก บันทึการนำเสนอสไลด์    ในขั้นตอนนี้สามารถเลือกได้ว่าจะเริ่มบันทึกตั้งแต่หน้าแรก (Record from Beginning) หรือหากทำงานค้างอยู่สไลด์อื่นก็เริ่มจากสไลด์ปัจจุบัน (Record from Current Slide)


            3. คลิก Record เพื่อเริ่มการบันทึก


            4. คลิก Stop เมื่อสิ้นสุดการบันทึก


            5. คลิปที่บันทึกจากกล้องก็จะปรากฏบนสไลด์ที่มีการบันทึก


            6. บันทึกไฟล์เป็นไฟล์วิดีโอ MP4 โดยไปที่เมนู ไฟล์ > ส่งออก > สร้าง วิดีโอ
            7. กำหนดคุณภาพของไฟล์วิดีโอ (แนะนำ Full HD 1920 x 1080)
            8. คลิก Create Video


            9. เลือกที่จัดเก็บไฟล์วิดีโอ
            10. ตั้งชื่อไฟล์
            11. คลิก Save


            12. รอโปรแกรมประมวลผลเป็นไฟล์วิดีโอ (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับความยาวของการบรรยายและคุณภาพไฟล์ที่เลือก)
            13. เมื่อประมวลผลเสร็จแล้ว จะได้ไฟล์วิดีโอเป็น MP4 สามารถนำไปอัพโหลดขึ้น YouTube หรือห้องเรียนออนไลน์ได้ทันที


<< Go Back