1. ข้อใด ไม่ใช่ ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า
|
|
1. แบตเตอรี่ |
|
2. สายไฟ |
|
3. หลอดไฟ |
|
4. ตัวต้านทาน |
|
2. อุปกรณ์ใดที่ไม่ได้ใช้กลไกในการทำงาน |
|
1. ลูกบิดประตู |
|
2. มีด |
|
3. ไขควง |
|
4. สว่านมือ |
|
3. “ กลไกที่ช่วยผ่อนแรงในการทำงาน ประกอบด้วยวัตถุทรงกระบอก 2 อันที่มีขนาดต่างกันและอยู่ ติดกัน ” หมายถึงข้อใด |
|
1. สกรูและลิ่ม |
|
2. ล้อและเพลา |
|
3. รอกและคาน |
|
4. ไม่มีข้อถูก |
|
4. อุปกรณ์ในข้อใดใช้การทำงานตากหลักการกลไกล้อและเพลา |
|
1. กังหันน้ำชัยพัฒนา |
|
2. เรือหางยาว |
|
3. รถดำนา |
|
4. เครื่องปั่นผลไม้ |
|
5. ไฟฟ้าที่เราใช้ภายในบ้านเรือนทั่วไปมีขนาดแรงดันเท่าไร |
|
1. 220 โวลต์ |
|
2. 300 โวลต์ |
|
3. 320 โวลต์ |
|
4. 400 โวลต์ |
|
6. อุปกรณ์ในข้อใดมีหน้าที่ตัดหรือต่อวงจรไฟฟ้า เพื่อควบคุมการไหลของกระแสไฟฟ้าภายในวงจร |
|
1. หลอดไฟ |
|
2. แหล่งกำเนิดไฟฟ้า |
|
3. สวิตซ์ |
|
4. สายไฟ |
|
7. ข้อใดคืออุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียงจากไฟฟ้า |
|
1. โทรศัพท์เคลื่อนที่ |
|
2. ออดไฟฟ้า |
|
3. การ์ดอวยพรแบบมีเพลง |
|
4. ถูกทุกข้อ |
|
8. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง |
|
1. พัดลมคืออุปกรณ์ที่เปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานกล |
|
2. ไดนาโมคืออุปกรณ์ที่เปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานกล |
|
3. เครื่องซักผ้าคืออุปกรณ์ที่เปลี่ยนจากพลังงานกลไปเป็นพลังงานไฟฟ้า |
|
4. ตู้เย็นคืออุปกรณ์ที่เปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานความเย็น |
|
9. จากภาพคือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนอุปกรณ์ใด
|
|
1. แบตเตอรี่ |
|
2. สวิตซ์ |
|
3. ตัวต้านทาน |
|
4. หลอดไฟ |
|
10. ไฟฟ้าที่มีทิศทางการเคลื่อนที่ในวงจรไปทิศทางเดียว หมายถึงข้อใด |
|
1. ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค |
|
2. ไฟฟ้ากระแสสลับ |
|
3. ไฟฟ้ากระแสตรง |
|
4. ไฟฟ้าทางตรง |
|
11. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม มีกี่ขั้นตอน
|
|
1. 2 ขั้นตอน |
|
2. 4 ขั้นตอน |
|
3. 6 ขั้นตอน |
|
4. 8 ขั้นตอน |
|
12. ขั้นสุดท้ายของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม คือข้อใด |
|
1. ระบุปัญหา |
|
2. รวบรวมข้อมูล |
|
3. ทดสอบ ประเมินผล |
|
4. นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา |
|
13. ข้อใดเรียงลำดับกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมได้ถูกต้อง |
|
1. ระบุปัญหา รวบรวมข้อมูล ออกแบบวิธีแก้ปัญหา วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ทดสอบ |
|
2. นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ระบุปัญหา รวบรวมข้อมูล ออกแบบวิธีแก้ปัญหา วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา ทดสอบ |
|
3. ระบุปัญหา รวบรวมข้อมูล ออกแบบวิธีแก้ปัญหา วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา ทดสอบ นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา |
|
4. ออกแบบวิธีแก้ปัญหา ระบุปัญหา รวบรวมข้อมูล วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา ทดสอบ นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา |
|
14. ขั้นแรกของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม คือข้อใด |
|
1. ระบุปัญหา |
|
2. รวบรวมข้อมูล |
|
3. ทดสอบ ประเมินผล |
|
4. นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา |
|
15. ข้อใดคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ต้องมีขั้นตอนการทดสอบ ประเมินนผล และปรับปรุงวิธีการแก้ปัญหา |
|
1. เพื่อให้มองเห็นข้อบกพร่อง แล้วนำมาปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้น |
|
2. เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุด สามารถเอาชนะผลงานอื่น ๆ ในท้องตลาดได้ |
|
3. เพื่อให้ได้การออกแบบผลงานที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน |
|
4. ไม่มีข้อกล่าวถูก |
|
16. ก่อนที่นักเรียนจะรวบรวมข้อมูลนักเรียนควรทำอะไรก่อน |
|
1. ระบุปัญหา |
|
2. ออกแบบวีธีการแก้ปัญหา |
|
3. วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา |
|
4. ทดสอบประเมินผลและปรับปรุงแก้ไข |
|
17. การสืบค้นข้อมูลสามารถรวบรวมข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ใดบ้าง |
|
1. การสืบค้นจากเอกสาร |
|
2. การสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญ |
|
3. บทความงานวิจัยการเผยแพร่ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต |
|
4. ถูกทุกข้อ |
|
18. ข้อใดบอกความหมาย "ออกแบบวิธีแก้ไขปัญหา" ได้ถูกต้อง |
|
1. ช่วยลดเวลาและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงาน |
|
2. ขั้นตอนสุดท้าย ของกระบวนการเชิงวิศวกรรม |
|
3. กำหนดเป้าหมายและเวลา |
|
4. ขั้นตอนแรก ของกระบวนการเชิงวิศวกรรม |
|
19. การเขียนผังงานแสดงรายละเอียดการทำงานอยู่ขั้นตอนใด |
|
1. ระบุปัญหา |
|
2. รวบรวมข้อมูลและแนวคิด |
|
3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา |
|
4. ดำเนินการแก้ปัญหา |
|
20. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์จากการออกแบบ |
|
1. เพื่อประโยชน์ใช้สอยตามสภาพ |
|
2. เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้งานจริง |
|
3. เพื่อยกระดับชิ้นงานให้มีความหรูหราและมีความงามเฉพาะตัว |
|
4. เพื่อยกระดับมาตรฐานต่ำแต่นำไปจำหน่ายในราคาที่สูงเกินจริง |
|
21. ก่อนที่นักเรียนจะรวบรวมข้อมูลนักเรียนควรทำอะไรก่อน
|
|
1. ระบุปัญหา |
|
2. วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา |
|
3. ออกแบบวีธีการแก้ปัญหา |
|
4. ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไข |
|
22. กระบวนการแก้ปัญหาจะต้องเริ่มจากขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนแรก |
|
1. ดำเนินการแก้ไข |
|
2. วางแผนการแก้ปัญหา |
|
3. ตรวจสอบและปรับปรุง |
|
4. วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา |
|
23. การใช้กระบวนการแก้ปัญหามีประโยชน์อย่างไร |
|
1. สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง |
|
2. สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง |
|
3. สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ |
|
4. สามารถสร้างเงื่อนไขในการแก้ปัญหาของตนเองได้ |
|
24. การสืบค้นข้อมูลสามารถรวบรวมข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ใดบ้าง |
|
1. การสืบค้นจากเอกสาร |
|
2. บทความงานวิจัยการเผยแพร่ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต |
|
3. การสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญ |
|
4. ถูกทุกข้อ |
|
25. ตัวอย่าง ประเด็น การเลือกวัสดุที่มาใช้ในการแก้ปัญหา ควรอยู่ขั้นตอนใด |
|
1. ระบุปัญหา |
|
2. รวบรวมข้อมูลและแนวคิด |
|
3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา |
|
4. วางแผนดำเนินการแก้ปัญหา |
|
26. ในการแก้ปัญหาตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องรวบรวมข้อมูลก่อนการออกแบบวิธีการแก้ปัญหา |
|
1. เพื่อค้นหาวิธีการทดสอบประสิทธิภาพของวิธีการ หรือชิ้นงานที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหา |
|
2. เพื่อให้มั่นใจว่าวิธีการแก้ปัญหามีความสอดคล้องกับแนวทางที่ผู้อื่นเคยทำไว้ |
|
3. เพื่อค้นหาและเลือกข้อมูลที่จำเป็นและสอดคล้องกับปัญหาที่สนใจ |
|
4. เพื่อค้นหาวิธีการแก้ปัญหาที่คนอื่นทำไว้เพื่อนำมาเลียนแบบ |
|
27. เพราะเหตุใดถึงต้องมีการรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา |
|
1. เพื่อพัฒนาแนวทางในการแก้ปัญหา |
|
2. เพื่อหาทฤษฎีมารองรับ |
|
3. เพื่อศึกษาปัญหาอื่นๆ ที่คล้ายกัน |
|
4. เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงของปัญหา |
|
28. การวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขชิ้นงาน ควรอยู่ในขั้นตอนใด |
|
1. ระบุปัญหา |
|
2. ออกแบบวิธีแก้ปัญหา |
|
3. วางแผนดำเนินการแก้ปัญหา |
|
4. ทดสอบ ประเมินผล ปรับปรุง และแก้ไขชิ้นงาน |
|
29. ขั้นตอนต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างระเอียดและต้องมีการวางแผนอย่างถูกวิธี |
|
1. ดำเนินการแก้ปัญหา |
|
2. เลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธี |
|
3. วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา |
|
4. ตรวจสอบและปรับปรุง |
|
30. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับการแก้ปัญหาตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม |
|
1. การทดลองทางวิทยาศาสตร์เป็นวิธีการหนึ่งของการรวบรวมข้อมูล |
|
2. การนำเสนอผลงานควรใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการนำเสนอเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจยิ่งขึ้น |
|
3. นำผลการทดสอบมากำหนดประเด็นในการประเมินผลงาน |
|
4. เมื่อทดสอบชิ้นงานแล้วพบว่ามีปัญหาต้องกลับไปออกแบบชิ้นงานใหม่เสมอ |
|