| 1. ข้อใดคือความหมายของข้อมูล |
| |
1. ข้อมูลที่ประมวลผลเป็นสารสนเทศ |
2. ข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้กลั่นกรองแล้ว |
| |
3. ข้อความที่ใช้แทนคน สัตว์ และสิ่งของ |
4. ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทุกสิ่งหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ |
| |
|
|
| 2. ออดิโอ (Audio) คือข้อมูลชนิดใด |
| |
1. ภาพ |
2. เสียง |
| |
3. ข้อความ |
4. ภาพและเสียง |
| |
|
|
| 3. ข้อใด คือความหมายของฐานข้อมูล |
| |
1.ข้อมูลที่เหมือนกันนำมารวมกัน |
|
| |
2.การรวบรวมแฟ้มข้อมูลที่ซ้ำกันไว้ด้วยกัน |
|
| |
3.กลุ่มของแฟ้มข้อมูลที่เป็นเรื่องเดียวกันเพื่อใช้งานร่วมกัน |
| |
4.กลุ่มของแฟ้มข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันนำมารวบรวมไว้ด้วยกันเพื่อใช้ข้อมูลร่วมกัน |
| |
|
|
| 4. ข้อใดคือข้อดีของการใช้ฐานข้อมูล |
| |
1 .ต้นทุนสูง |
2. มีความซับซ้อน |
| |
3. เกิดการสูญเสียข้อมูล |
4. มั่นใจในการนำไปใช้งาน |
| |
|
|
| 5. ข้อใดคือองค์ประกอบของโครงสร้างข้อมูล |
| |
1. ค่าตรรกะ |
2. ข้อมูลนามธรรม |
| |
3. แฟ้มข้อมูล (File) |
4. ข้อมูลแบบพอยน์เตอร์ |
| |
|
|
| 6.โครงสร้างต้นไม้ เป็นแบบจำลองฐานข้อมูลในข้อใด |
| |
1. เชิงวัตถุ |
2. เชิงสัมพันธ์ |
| |
3. แบบลำดับชั้น |
4. แบบเครือข่าย |
| |
|
|
| 7. ข้อใด คือความหมายของแบบจำลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ |
| |
1. นำเสนอข้อมูล และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลในรูปรีเลชัน |
| |
2. นำเสนอข้อมูล และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่มีการเรียงลำดับหลายชั้น |
| |
3. นำเสนอข้อมูล และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่มีความสัมพันธ์แบบเชิงซ้อน |
| |
4. นำเสนอข้อมูล และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่มีการเรียงลำดับและแบบเชิงซ้อน |
| |
|
|
| 8. ลักษณะของความสัมพันธ์แบบต่อเนื่อง (One-to-One) คืออะไร |
| |
1. วิชาหนึ่งมีนักศึกษามาลงทะเบียนหลายคน |
|
| |
2. ทำให้ตาราง 1 ตาราง หรือมากกว่าเชื่อมโยงถึงกันได้ |
| |
3. ในใบลงทะเบียน 1 ใบ มีรายชื่อของวิชาที่ลงทะเบียนอยู่หลายรายการ |
| |
4. ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียน 1 คน สามารถมีเลขประจำตัวนักเรียนหมายเลขเดียว |
| |
|
|
| 9. ข้อใดกล่าวถึง Primary Key ได้ถูกต้องที่สุด |
| |
1. Primary Key คือ คีย์หลัก |
2. Primary Key คือ คีย์รอง |
| |
3. Primary Key คือ คีย์นอก |
4. Primary Key คือ คีย์ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับคีย์หลัก |
| |
|
|
| 10. ข้อใดกล่าวถึง Foreign key ได้ถูกต้องที่สุด |
| |
1. Primary Key คือ คีย์หลัก |
2. Primary Key คือ คีย์รอง |
| |
3. Primary Key คือ คีย์นอก |
4. Primary Key คือ คีย์ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับคีย์หลัก |
| |
|
|
| 11. ฐานข้อมูลแบบสัมพันธ์ แบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง |
| |
1. 1 ประเภท |
2. 2 ประเภท |
| |
3. 3 ประเภท |
4. 4 ประเภท |
| |
|
|
| 12. ข้อใดเป็นจุดประสงค์ในการออกแบบฐานข้อมูล |
| |
1. เพื่อเรียกใช้ข้อมูลในเวลาที่สั่นที่สุด |
2. สามารถกำหนดลักษณะการเข้าถึงข้อมูลได้ |
| |
3. ช่วยให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ง่าย |
4. ถูกทุกข้อ |
| |
|
|
|
13. ในการออกแบบฐานข้อมูลนั้น ขั้นตอนใดควรทำเป็นอันดับแรก |
| |
1. ทำการ Normalezation |
2. กำหนดเอนทิตี้ทั้งหมดในฐานข้อมูล |
| |
3. กำหนดคีย์หลัก และแอตทริบิวต์ต่างๆ |
4. กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ต่างๆ |
| |
|
|
| 14. ฟิลด์ในอีกตารางหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับฟัลด์ที่เป็น Primary Key เราเรียกฟิลด์นั้นว่าอะไร |
| |
1. Foreing Key |
2. Composite Key |
| |
3. Candidate key |
4. Primary Key |
| |
|
|
| 15. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง |
| |
1. เมื่อนำฟิลด์หลายๆ ฟิลด์มารวมกัน จะได้เป็นเรคอร์ด |
| |
2. ในข้อมูล 1 ตาราง สามารถมี Primary Key ได้มากว่า 1 ฟิลด์ |
| |
3. ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่มเป็นความสัมพันธ์ที่พบมากที่สุดในระบบฐานข้อมูล |
| |
4. หิลด์ในอีกตารางหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับฟิลด์ที่เป็น Primary Key เรียกว่า Composite Key |
| |
|
|
